ปรัชญาการศึกษาหรือทฤษฎีทางการศึกษา มีอิทธิพลและมีความสำคัญต่อการพัฒนาหลักสูตรเป็นอย่างมาก กล่าวคือ การที่นักพัฒนาหลักสูตรจะพิจารณาและตัดสินใจลงไปว่า จุดหมายของหลักสูตรควรจะเป็นอย่างไร จะกำหนดให้เรียนเนื้อหาอะไรบ้าง ตลอดจนวิธีการเรียนการสอนและการประเมินผล จะต้องอิงหรืออาศัยความรู้และความคิดที่เกี่ยวข้องและพาดพิงปรัชญาทั้งสิ้น โดยปรัชญาในการจัดหลักสูตรมีแนวคิดกว้างๆ ดังนี้
1. คิดพิจารณาจากฐานข้อมูลจริง วิเคราะห์ความต้องการและประเมินความจำเป็นให้สอดคล้องกับลักษณะ
ของผู้เรียน
2. พิจารณาพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมโดยปรับกรอบการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่พึงประสงค์
3. จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
4. จัดให้มีทางเลือกมากที่สุด เน้นหลักสูตรของผู้เรียนไม่ใช่ของผู้สอน
5. จัดหลักสูตรให้เอื้อต่อความพร้อมที่ไม่เท่ากันของผู้เรียน
6. จัดหลักสูตรให้ผู้เรียนคิดระดับโลก แต่ปฏิบัติได้ในระดับท้องถิ่น
7. จัดหลักสูตรให้คำนึงตั้งแต่วันแรกเกินจนตาย
8. จัดหลักสูตรให้พิจารณาภาพรวมของหลักสูตรในประเทศอื่นๆ เพื่อผู้เรียนได้ก้าวสู่มาตรฐานโลก
9. จัดหลักสูตรโดยมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
จากบทความ "ในหลวงกับการพัฒนา" (นสพ.เดลินิวส์: วันที่ 9 มิ.ย. 54, น.10) เป็นบทความถวายสดุดีในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัยราชสมบัติเป็นเวลา 65 ปี และเป็น 65 ปีที่ทรงอุทิศพระวรกายพระสติปัญญาด้วยพระวิริยะอุตสาหะ มิทรงย่อท้อต่อความเหน็ดเหนื่อย ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยการศึกษา ค้นคว้า ทดลองเพื่อหาแนวทางเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนและชาติบ้านเมือง ทำให้ประชาชนได้ชื่นชมพระอัจริยะฉาพของพระองค์ท่าน จากโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ แสดงให้เห็นหลักการพัฒนาที่สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษา ที่ว่า จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยเป็นไปตามธรรมชาติ เห็นได้จากการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้พระองค์มีข้อมูลที่ได้ศึกษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเมือง ภูมิประเทศ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ การดำรงชีพ มาวิเคราะห์ คิดค้น หาทางแก้ไขปัญหาตางๆ ที่เป็นข้อเดือดร้อนของราษฎร ในการพระราชทานโครงการพระราชดำรินั้น พรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ความรอบคอบเป็นอย่างยิ่อง ทรงมีการศึกษาค้นคว้าเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืนให้ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
1. คิดพิจารณาจากฐานข้อมูลจริง วิเคราะห์ความต้องการและประเมินความจำเป็นให้สอดคล้องกับลักษณะ
ของผู้เรียน
2. พิจารณาพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมโดยปรับกรอบการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่พึงประสงค์
3. จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
4. จัดให้มีทางเลือกมากที่สุด เน้นหลักสูตรของผู้เรียนไม่ใช่ของผู้สอน
5. จัดหลักสูตรให้เอื้อต่อความพร้อมที่ไม่เท่ากันของผู้เรียน
6. จัดหลักสูตรให้ผู้เรียนคิดระดับโลก แต่ปฏิบัติได้ในระดับท้องถิ่น
7. จัดหลักสูตรให้คำนึงตั้งแต่วันแรกเกินจนตาย
8. จัดหลักสูตรให้พิจารณาภาพรวมของหลักสูตรในประเทศอื่นๆ เพื่อผู้เรียนได้ก้าวสู่มาตรฐานโลก
9. จัดหลักสูตรโดยมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
จากบทความ "ในหลวงกับการพัฒนา" (นสพ.เดลินิวส์: วันที่ 9 มิ.ย. 54, น.10) เป็นบทความถวายสดุดีในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัยราชสมบัติเป็นเวลา 65 ปี และเป็น 65 ปีที่ทรงอุทิศพระวรกายพระสติปัญญาด้วยพระวิริยะอุตสาหะ มิทรงย่อท้อต่อความเหน็ดเหนื่อย ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจโดยการศึกษา ค้นคว้า ทดลองเพื่อหาแนวทางเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนและชาติบ้านเมือง ทำให้ประชาชนได้ชื่นชมพระอัจริยะฉาพของพระองค์ท่าน จากโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ แสดงให้เห็นหลักการพัฒนาที่สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษา ที่ว่า จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยเป็นไปตามธรรมชาติ เห็นได้จากการเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้พระองค์มีข้อมูลที่ได้ศึกษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเมือง ภูมิประเทศ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ การดำรงชีพ มาวิเคราะห์ คิดค้น หาทางแก้ไขปัญหาตางๆ ที่เป็นข้อเดือดร้อนของราษฎร ในการพระราชทานโครงการพระราชดำรินั้น พรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ความรอบคอบเป็นอย่างยิ่อง ทรงมีการศึกษาค้นคว้าเพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืนให้ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น